您现在的位置是:综合 >>正文
รมว.ทส.หารือทูตศรีลังกาฯ ประสานความร่วมมือดูแล"พลายประตูผา
综合6953人已围观
简介วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย ...
รมวทสหารือทูตศรีลังกาฯประสานความร่วมมือดูแลquotพลายประตูผาtelegram官网下载
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่เหมาะสมที่สุดกับช้าง 2 เชือก ได้แก่ "พลายประตูผา - พลายศรีณรงค์" ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมให้การต้อนรับ
การหารือครั้งนี้จัดขึ้นตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีฯ ดำเนินการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลช้างทั้งสองเชือก เนื่องจากช้างทั้งสองมีอายุมากและเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูสวัสดิภาพอย่างเร่งด่วน
โดยขณะนี้ ช้างทั้ง 2 เชือก ได้แก่ พลายประตูผา อายุ 51 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2523 อาศัยที่วัดสุธุฮุมโปลลา เมืองแคนดี้ ส่วนพลายศรีณรงค์ อายุ 29 ปี ถูกส่งไปเมื่อปี 2544 อาศัยอยุ่ที่วัด Kelaniya เมือง Rattanapura ช้างทั้ง 2 เชือก อยู่ห่างกันระยะทาง 105 กิโลเมตร
ช้างทั้งสองได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีทางวัฒนธรรมและศาสนา เชื่อมโยงสายใยแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนไทยและศรีลังกามาอย่างยาวนาน ด้วยการอุทิศร่างกายรับใช้พระพุทธศาสนาด้วยความทุ่มเทและสง่างาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานการดำเนินงานอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดี ระหว่างไทย-ศรีลังกา กว่า 70 ปี ความเคารพต่อประเพณีและวัฒนธรรม รวมทั้งความศรัทธาร่วมกันในพระพุทธศาสนาสวัสดิภาพของช้างที่มีอายุมากและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และความรู้สึกของประชาชนทั้ง 2 ปรเทศ ที่มีความผูกพันลึกซึ้งต่อช้างทั้ง 2 เชือก
"รัฐบาลไทยมีความประสงค์ที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับสู่ประเทศไทย เพื่อให้ได้กลับมาพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงบั้นปลายชีวิต ณ ถิ่นกำเนิด หลังจากปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรติมาอย่างยาวนาน"
รองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งความประสงค์ในนามของรัฐบาลไทยที่จะเข้าเยี่ยมคารวะท่านอนุระ กุมาระ ทิสานายกะ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ณ กรุงโคลัมโบ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับช้างไทย และส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทยจะมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ประสานงานในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ช้างถือเป็นสัตว์ที่มีความหมายพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ สำหรับไทยช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สำหรับศรีลังกาช้างเป็นสัตว์มงคลในพระพุทธศาสนา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ศาสนา และวัฒนธรรมร่วมกัน
"ด้วยเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ ความเคารพ และความเข้าใจอันลึกซึ้ง ฝ่ายไทยมีความมุ่งหวังอย่างยิ่งที่จะนำช้างทั้ง 2 เชือกกลับบ้าน พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความยินดีที่จะสนับสนุนการส่งเสริมบทบาทของเด็กและเยาวชนในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามข้อมติของศรีลังกาที่ร้องขอให้ไทยร่วมสนับสนุน ในการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 7 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม 2568 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทย ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ ก่อนตอบรับอย่างเป็นทางการ และจะประสานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อแจ้งยืนยันกับรัฐบาลศรีลังกาต่อไป
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“履险如夷网”。http://479968.telegramur.com/html/78b7699845.html
相关文章
Kỳ XII: Quỷ Cốc Tử Mưu lược toàn thư
综合Theo Quỷ Cốc Tử, "quyết" là gốc rễ của mọi v& ...
【综合】
阅读更多贾跃亭发文:尽责到底 早日回国 正在加速偿还债务
综合法法创始人、合伙人、首席产品及用户生态官,LeEco乐视创始人贾跃亭通过社交平台发布公开信称,其第二个不可撤销债权人信托已正式成立,旨在加速清偿其在国内因乐视体系担保责任所形成的债务,并表示将“尽责到 ...
【综合】
阅读更多联运知慧首次把智慧环卫和垃圾分类模式带入京津冀
综合2016年9月10-12日,以“京津冀协同发展 共享同一片蓝天”为主题的“2016京津冀第二届城乡环境卫生新技术新设备新工艺博览会”在河北省廊坊国际会展中心隆重举办。作为工程4.0领导者、智慧环卫和垃 ...
【综合】
阅读更多