您现在的位置是:娱乐 >>正文
กต.ไม่ให้ค่าเฟกนิวส์เขมร ชี้ไม่มีมูล
娱乐816人已围观
简介นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูช ...
กตไม่ให้ค่าเฟกนิวส์เขมรชี้ไม่มีมูลtelegram安卓下载
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของผู้สังเกตการณ์ (AOT) ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งผู้สังเกตการณ์มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีการสะท้อนความจริงใจ
จากนั้น วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คณะ AOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี มีการตรวจพบทุ่นระเบิดใหม่ ขณะเดียวกันได้ลงไปที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนวันที่ 18 พฤศจิกายน คณะ AOT ลงพื้นที่ ปราสาทคนา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
นายนิกรเดช ยังระบุถึงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนจากฝั่งกัมพูชา เพราะฝั่งกัมพูชายังคงใช้สงครามข้อมูลข่าวสาร โดยการเผยแพร่ข้อมูลเท็จอย่างต่อเนื่อง เช่น การกล่าวหาว่าทหารไทยเตรียมการโจมตีพื้นที่ธมอดาและโอพลุกด็อมเร็ย จ.โพธิสัตย์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง
ขณะเดียวกัน มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ไทยทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ จ.จันทบุรี โดยไทยขอประณามการกล่าวหาดังกล่าวของกัมพูชา ซึ่งจากการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน ยืนยันว่าไม่พบเหตุดังกล่าว และไม่มีทหารหน่วยงานใดกระทำดังตามที่กล่าวอ้าง ยืนยันว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ไทยเป็นไปตามกฎหมาย ย้ำว่าในการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองจะมีสักขีพยานดูแลตลอด ยืนยันไทยเคารพ ยึดมั่นตามกฎหมายสากล และสิทธิมนุษยชน ดังนั้นไทยไม่ให้ค่าในข้อกล่าวหาดังกล่าว ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล เจตนาร้าย ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่สงครามข่าวสารปะทุขึ้นอีกครั้ง ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ความระมัดระวังการบริโภคข่าวสารโดยตรวจสอบข้อมูลได้จากแหล่งข่าวทางการ ขณะเดียวกันขอความร่วมมือสื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนมีการเสนอรายงานข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการเผยแพร่คำปลอบและสร้างความเข้าใจและสร้างความเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ
นายนิกรเดช ยังระบุถึงการประสานงานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ภายหลังการหารือระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ด้วยว่า ล่าสุดเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีมีหนังสือ 1 ฉบับ ถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำถึงการละเมิด Joint Declaration ของกัมพูชา โดยขอให้กัมพูชาไม่ขัดขวางการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทย และแสดงความจริงใจที่จะปฏิบัติตาม Joint Declaration และกลับสู่เส้นทางสันติภาพร่วมกับไทย โดยท่าทีของไทยกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงเป็นเหมือนเดิม เพราะเป็นการแยก 2 ประเด็นนี้ ออกจากกัน คือ ประเด็นความมั่นคงและเรื่องการค้า ที่สำคัญฝ่ายไทยไม่เห็นด้วยกับการผูกสองเรื่องนี้ไว้ด้วยกัน แต่หากสหรัฐฯ จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในเรื่องนี้ ก็ขอให้สหรัฐฯ กดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตาม Joint Declaration อย่างเคร่งครัดด้วย ขอให้มั่นใจว่า หน่วยงานไทยทุกหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องไทยทุกมิติ
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาภาษีและกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ขอระงับการเจรจากรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นายนิกรเดช ระบุว่าเคลียร์ที่สุดเท่าที่จะเคลียร์ได้แล้ว ยืนยันว่า นายกฯ ได้พูดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยขอให้ยึดสิ่งที่นายกฯ ได้พูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหลัก ขอให้แยกเรื่องดังกล่าวออกจากกัน เราจะเดินหน้าเจรจาการค้าตามปกติ ในชั้นนี้ก็รอให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ คงตอบแทนทางฝั่งเขาไม่ได้ เรามั่นใจว่าสิ่งที่เรายึดถือตอนนี้คือความเข้าใจตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำได้แจ้งต่อนายกฯ รอให้มีการเจรจานัดถัดไปตามวาระปกติของฝ่ายเจรจา
ทั้งนี้ การคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นก่อนมีหนังสือขอระงับการเจรจาหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายกฯ พูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ตามถ้อยแถลง ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกันตนเองไม่แน่ใจ แต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 มีการโทรศัพท์ระหว่างกัน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะหนังสือดังกล่าวออกจาก USTR
ในหลักการจะต้องฟังนโยบายจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ดังนั้นหนังสือจึงไม่มีนัยสำคัญ สำหรับประเทศไทยสิ่งสำคัญคือ ผู้นำประเทศ นายกฯ ได้คุยกับนายโดนัลด ทรัมป์ และในการพูดคุยไม่ได้พูดคุยเรื่องภาษีอย่างเดียว เป็นการพูดคุยเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเราได้อธิบายท่าทีว่าเรามั่นใจว่าเราเป็นผู้ละเมิดถ้อยแถลง เราคิดว่าสหรัฐฯ อาจจะช่วยกดดันให้กัมพูชาที่เป็นผู้ละเมิดสามารถปฏิบัติตามถ้อยแถลงได้ เราสื่อสารสิ่งสำคัญเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถกลับมาดำเนินการตามถ้อยแถลงได้ สหรัฐฯ ก็จะมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรียังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้แตะเรื่องภาษี แต่ตอนท้ายมีการพูดเรื่อง เก็บกู้ทุ่นระเบิด หากเราเก็บกู้หมดก็ขอให้ช่วยพิจารณาเรื่องภาษีด้วย ส่วนตัวฯ มองว่านายกฯ พูดชัดเจนว่าเราต้องการอะไร และเราพร้อมดำเนินการหากมีความคืบหน้าในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็แสดงความเข้าใจด้วยดี เราจึงยึดถือสิ่งนี้เป็นหลัก
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศจะลดภาษี 2% ตามที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์นั้น ซึ่งมีการเอาเรื่องความมั่นคงมาโยงกับการเจรจาภาษี นายนิกรเดช ยืนยันว่า เรื่องนี้เราไม่ได้เป็นคนเริ่ม เราไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการโยงอะไรทั้งนั้น การเจรจาการค้าเป็นเรื่องบวกทั้งสหรัฐฯ และไทย แต่เมื่อมีการพูดขึ้นมาว่าเราละเมิด และหากเราละเมิดก็จะกระทบการเจรจาการค้า เราจึงตอบตามโจทย์ที่มีการโยง แต่เราไม่ต้องการโยง และนายกฯ ยืนยันว่าทั้งสองเรื่องแยกออกจากกัน แต่ถ้าประเทศไหนต้องการโยงเรื่องนี้ มองว่าควรจะกดดัน จะรู้สึกขอบคุณมากกว่าหากจะเล่นบทสร้างสรรค์ กดดันประเทศที่ละเมิด นั่นคือท่าทีของไทย ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้รับปาก เพียงแต่บอกว่าจะไปคุยให้
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การลงพื้นที่ของผู้สังเกตการณ์ (AOT) ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งผู้สังเกตการณ์มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีการสะท้อนความจริงใจ
จากนั้น วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คณะ AOT ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี มีการตรวจพบทุ่นระเบิดใหม่ ขณะเดียวกันได้ลงไปที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนวันที่ 18 พฤศจิกายน คณะ AOT ลงพื้นที่ ปราสาทคนา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
นายนิกรเดช ยังระบุถึงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนจากฝั่งกัมพูชา เพราะฝั่งกัมพูชายังคงใช้สงครามข้อมูลข่าวสาร โดยการเผยแพร่ข้อมูลเท็จอย่างต่อเนื่อง เช่น การกล่าวหาว่าทหารไทยเตรียมการโจมตีพื้นที่ธมอดาและโอพลุกด็อมเร็ย จ.โพธิสัตย์ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งมีการยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง
ขณะเดียวกัน มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ไทยทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ จ.จันทบุรี โดยไทยขอประณามการกล่าวหาดังกล่าวของกัมพูชา ซึ่งจากการตรวจสอบจากทุกหน่วยงาน ยืนยันว่าไม่พบเหตุดังกล่าว และไม่มีทหารหน่วยงานใดกระทำดังตามที่กล่าวอ้าง ยืนยันว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ไทยเป็นไปตามกฎหมาย ย้ำว่าในการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองจะมีสักขีพยานดูแลตลอด ยืนยันไทยเคารพ ยึดมั่นตามกฎหมายสากล และสิทธิมนุษยชน ดังนั้นไทยไม่ให้ค่าในข้อกล่าวหาดังกล่าว ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล เจตนาร้าย ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่สงครามข่าวสารปะทุขึ้นอีกครั้ง ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ความระมัดระวังการบริโภคข่าวสารโดยตรวจสอบข้อมูลได้จากแหล่งข่าวทางการ ขณะเดียวกันขอความร่วมมือสื่อมวลชนตรวจสอบข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนมีการเสนอรายงานข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการเผยแพร่คำปลอบและสร้างความเข้าใจและสร้างความเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ
นายนิกรเดช ยังระบุถึงการประสานงานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ภายหลังการหารือระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ด้วยว่า ล่าสุดเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีมีหนังสือ 1 ฉบับ ถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำถึงการละเมิด Joint Declaration ของกัมพูชา โดยขอให้กัมพูชาไม่ขัดขวางการปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทย และแสดงความจริงใจที่จะปฏิบัติตาม Joint Declaration และกลับสู่เส้นทางสันติภาพร่วมกับไทย โดยท่าทีของไทยกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงเป็นเหมือนเดิม เพราะเป็นการแยก 2 ประเด็นนี้ ออกจากกัน คือ ประเด็นความมั่นคงและเรื่องการค้า ที่สำคัญฝ่ายไทยไม่เห็นด้วยกับการผูกสองเรื่องนี้ไว้ด้วยกัน แต่หากสหรัฐฯ จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในเรื่องนี้ ก็ขอให้สหรัฐฯ กดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตาม Joint Declaration อย่างเคร่งครัดด้วย ขอให้มั่นใจว่า หน่วยงานไทยทุกหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องไทยทุกมิติ
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาภาษีและกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ขอระงับการเจรจากรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นายนิกรเดช ระบุว่าเคลียร์ที่สุดเท่าที่จะเคลียร์ได้แล้ว ยืนยันว่า นายกฯ ได้พูดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยขอให้ยึดสิ่งที่นายกฯ ได้พูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหลัก ขอให้แยกเรื่องดังกล่าวออกจากกัน เราจะเดินหน้าเจรจาการค้าตามปกติ ในชั้นนี้ก็รอให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ คงตอบแทนทางฝั่งเขาไม่ได้ เรามั่นใจว่าสิ่งที่เรายึดถือตอนนี้คือความเข้าใจตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำได้แจ้งต่อนายกฯ รอให้มีการเจรจานัดถัดไปตามวาระปกติของฝ่ายเจรจา
ทั้งนี้ การคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดขึ้นก่อนมีหนังสือขอระงับการเจรจาหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายกฯ พูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ตามถ้อยแถลง ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกันตนเองไม่แน่ใจ แต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 มีการโทรศัพท์ระหว่างกัน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะหนังสือดังกล่าวออกจาก USTR
ในหลักการจะต้องฟังนโยบายจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ดังนั้นหนังสือจึงไม่มีนัยสำคัญ สำหรับประเทศไทยสิ่งสำคัญคือ ผู้นำประเทศ นายกฯ ได้คุยกับนายโดนัลด ทรัมป์ และในการพูดคุยไม่ได้พูดคุยเรื่องภาษีอย่างเดียว เป็นการพูดคุยเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเราได้อธิบายท่าทีว่าเรามั่นใจว่าเราเป็นผู้ละเมิดถ้อยแถลง เราคิดว่าสหรัฐฯ อาจจะช่วยกดดันให้กัมพูชาที่เป็นผู้ละเมิดสามารถปฏิบัติตามถ้อยแถลงได้ เราสื่อสารสิ่งสำคัญเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถกลับมาดำเนินการตามถ้อยแถลงได้ สหรัฐฯ ก็จะมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรียังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้แตะเรื่องภาษี แต่ตอนท้ายมีการพูดเรื่อง เก็บกู้ทุ่นระเบิด หากเราเก็บกู้หมดก็ขอให้ช่วยพิจารณาเรื่องภาษีด้วย ส่วนตัวฯ มองว่านายกฯ พูดชัดเจนว่าเราต้องการอะไร และเราพร้อมดำเนินการหากมีความคืบหน้าในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็แสดงความเข้าใจด้วยดี เราจึงยึดถือสิ่งนี้เป็นหลัก
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศจะลดภาษี 2% ตามที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์นั้น ซึ่งมีการเอาเรื่องความมั่นคงมาโยงกับการเจรจาภาษี นายนิกรเดช ยืนยันว่า เรื่องนี้เราไม่ได้เป็นคนเริ่ม เราไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการโยงอะไรทั้งนั้น การเจรจาการค้าเป็นเรื่องบวกทั้งสหรัฐฯ และไทย แต่เมื่อมีการพูดขึ้นมาว่าเราละเมิด และหากเราละเมิดก็จะกระทบการเจรจาการค้า เราจึงตอบตามโจทย์ที่มีการโยง แต่เราไม่ต้องการโยง และนายกฯ ยืนยันว่าทั้งสองเรื่องแยกออกจากกัน แต่ถ้าประเทศไหนต้องการโยงเรื่องนี้ มองว่าควรจะกดดัน จะรู้สึกขอบคุณมากกว่าหากจะเล่นบทสร้างสรรค์ กดดันประเทศที่ละเมิด นั่นคือท่าทีของไทย ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้รับปาก เพียงแต่บอกว่าจะไปคุยให้
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“履险如夷网”。http://479968.telegramur.com/html/50b499945.html
相关文章
赵继伟当选CBA第四期月度最佳防守球员,为候选MVP加分
娱乐28日,CBA官方宣布,辽宁本钢男篮球员赵继伟当选2021-2022赛季CBA联赛第四期29-38轮)卡特彼勒月度最佳防守球员。CBA联赛常规赛第三阶段,辽宁本钢大将郭艾伦因伤缺席了多场比赛,辽宁男篮 ...
【娱乐】
阅读更多《等爱》(向青青演唱)的文本歌词及LRC歌词
娱乐等爱向青青等爱词:向青青曲:王钧唱:向青青Lrc By:吉时雨QQ:132 7269 041www.555uuu.cn ★我这里天已经黑了 你那里呢没有你的消息 心都悬挂着我日夜祈祷世界温柔待你只要你 ...
【娱乐】
阅读更多拍卖史上成交价最高现代艺术品诞生 拍出近17亿
娱乐纽约当地时间本月18日晚,苏富比拍卖行成功拍出了一件现代艺术画作《伊丽莎白·莱德勒肖像》,价格高达2.364亿美元约合人民币16.8亿元)。凭借将近17亿的价格,它打破安迪·沃霍尔《枪击玛丽莲》(1. ...
【娱乐】
阅读更多